Table of Contents

บทความที่เกี่ยวข้อง

ghostwire: tokyo ปฏิบัติการกอบกู้โตเกียวจากกองทัพผีร้าย หนึ่งในประสบการณ์เกม Single Player อันยอดเยี่ยม

ghostwire: tokyo หลังจาก The Evil Within ทั้งสองภาค Tango Gameworks ภายใต้การดูแลของ Bethesda ก็ไม่มีผลงานใหม่ออกมาเลย และการกลับมาคราวนี้ ก็เปลี่ยนจากโลก Psychological

Read More »

dying light 2 ภาคต่อปาร์กัวร์ลุยซอมบี้ที่เหมือนจะดี แต่ยังไม่สุด

เปิดให้เล่นกันแล้วสักพักสำหรับ dying light 2 ที่ทำยอดผู้เล่นได้อย่างดีหลักแสนคนบน Steam หลังจากเปิดให้เล่นได้ไม่กี่วัน โดยจากความสำเร็จของภาคหนึ่งก็ทำให้มีใครหลายคนคาดหวังกับภาคนี้ไว้มาก แต่ถึงกระนั้นตัวเกมก็มีปัญหาอยู่หลายอย่างและอาจจะผิดหวังกับใครหลายคนได้เช่นกัน วันนี้เราจะมารีวิวทั้งด้านที่ดีและด้านที่ไม่ดีของเกมนี้ให้ชมกันนะครับ ข้อดีของตัวเกม dying light 2 ภาคต่อของหนึ่งในเกมซอมบี้ยอดเยี่ยมที่ห่างกันถึง

Read More »

ghostwire: tokyo ปฏิบัติการกอบกู้โตเกียวจากกองทัพผีร้าย หนึ่งในประสบการณ์เกม Single Player อันยอดเยี่ยม

ghostwire: tokyo หลังจาก The Evil Within ทั้งสองภาค Tango Gameworks ภายใต้การดูแลของ Bethesda ก็ไม่มีผลงานใหม่ออกมาเลย และการกลับมาคราวนี้ ก็เปลี่ยนจากโลก Psychological Horror สุดหลอนให้กลายเป็นมือปราบผีที่ต้องปะทะกับเหล่าภูติผีร้ายท่ามกลางมหานครโตเกียวของญี่ปุ่น มันจะออกมาดีแค่ไหน มารับชมกันได้ในบทความรีวิว Ghostwire: Tokyo

Story ghostwire: tokyo

ghostwire: tokyo กรุงโตเกียว ย่านชิบูยะ ประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่อากิโตะกำลังเดินทางไปหาน้องสาวที่โรงพยาบาล เขาก็ประสบอุบัติเหตุจนรถมอเตอร์ไซค์ล้ม เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่วิญญาณลึกลับของ KK กำลังมองหาร่างใหม่เพื่อเข้าไปสิง ในจังหวะนั้นเองที่อากิโตะดันเป็นร่างที่ KK เลือกเข้าไปสิง แต่ในขณะเดียวกัน ก็เกิดเหตุการณ์หมอกปริศนาแพร่กระจายไปทั่วชิบูยะ คนที่โดนหมอกนี้สัมผัส กายเนื้อจะสลายหายไปเป็นวิญญาณ เหลือไว้แต่เสื้อผ้ากับสิ่งของ แต่โชคดีที่ KK เข้ามาสิงร่างเราได้ทันเวลา เราจึงไม่โดนปรากฎการณ์นี้เล่นงานไปด้วย อากิโตะรีบไปหาน้องสาวต่อที่โรงพยาบาลก่อนจะพบว่าเธอกำลังจะถูกพาตัวไปโดยกลุ่มบุคคลลึกลับที่นำโดยคนสวมหน้ากากฮันเนีย ที่เราได้เห็นกันไปในตัวอย่าง

อากิโตะพยายามขัดขวาง แต่ด้วยพลังอันอ่อนด้อยของเขาในตอนนี้สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ เขาจึงต้องจำใจให้ KK สิงร่าง โดยทั้งสองมีจุดมุ่งหมายต่างกัน อากิโตะต้องการช่วยน้องสาว ส่วน KK จะต้องหยุดกลุ่มบุคคลลึกลับนี้ให้ได้ โดยมีอดีตของทั้งคู่เป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนของเรื่องราวทั้งหมดในเกมนี้

สำหรับเนื้อเรื่อง ใครที่เคยอ่านมังงะหรือดูสื่อของญี่ปุ่นบ่อย ๆ อาจจะไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลกใหม่อะไรมาก อย่างตัวผู้เขียนเองเอง ตอนเห็นช่วงเปิดเกมนี่ นึกว่าปรสิต และเนื้อเรื่องในช่วงแรกมันจะค่อนข้างไปแบบช้า ๆ ให้ผู้เล่นได้ดื่มด่ำและสัมผัสกับบรรยากาศของตัวเกมซะก่อน ก่อนที่มันจะค่อย ๆ ขยายสเกลความตื่นเต้น และความลุ้นระทึกมากยิ่งขึ้น และผมชอบการเล่าเรื่องในเกมนี้มาก KK กับ Akito จะเหมือนกับสองคู่หูที่ชอบตบตีกันประจำ เหมือนในอนิเมะญี่ปุ่น แต่สุดท้ายถ้าจะจัดการปัญหาทั้งหมด สองคนนี้มันจะขาดกันไม่ได้

ขอสปอยล์นิดนึง ไม่กระทบเนื้อเรื่องหลัก ระหว่างการเล่น จะมีช่วงที่เราถูกจับแยกกับ KK ทำให้ตัว Akito นั้น ไร้พลังจนสู้กับพวกภูติผีไม่ได้ ต้องเล่นแบบลอบเร้น หลบ ๆ ซ่อน ๆ เท่านั้น ส่วน KK ที่โดนจับแยกจากกายเนื้อก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน คือมันนำเสนอผ่านเกมเพลย์การเล่นโดยตรงเลยว่า สองคนนี้มันขาดกันไม่ได้ ไม่งั้นทุกอย่างยากเย็นไปหมด หรือ ไปต่อไม่ได้เลย และมันก็นำเสนอออกมาได้ดีซะด้วย

และใครที่ชื่นชอบความลี้ลับ พิศวง คุณจะถูกเนื้อเรื่องของเกมนี้ดึงดูดได้ง่ายมาก ๆ คุณจะถูกกระตุ้นด้วยความสงสัยอยากรู้ ว่าทำไมโตเกียวถึงกลายเป็นแบบนี้ ทำไมภูติผีถึงออกมาอาละวาดเพ่นพ่านเต็มเมืองไปหมด ยิ่งเล่นไปเรื่อย ๆ เนื้อเรื่องก็จะยิ่งเปิดเผย ทั้งเนื้อเรื่องหลักที่เฉลยว่า กลุ่มคนลึกลับสวมหน้ากากนี้เป็นใคร และยังเปิดเผยเรื่องราวในอดีตของทั้ง KK และ Akito อีกด้วย แม้มันอาจจะเป็นสิ่งคนดูอนิเมะอาจจะเห็นมาบ่อยแล้ว แต่นี่คือเกมจริง ที่เราต้องเล่น ต้องพาตัวเอกไปลุย เราถึงจะได้สัมผัสเนื้อเรื่องและปูมหลังของพวกเขา มีจุดหักมุมให้เซอร์ไพรส์บ้างเป็นครั้งคราว ทำให้อรรถรสที่ได้มันจะเป็นอีกแบบหนึ่งเลย ลองดูแล้วคุณจะรู้ แต่ส่วนตัว ผู้เขียนชอบการเล่าเรื่องและเนื้อเรื่องของเกมนี้มาก ๆ

Presentation

ทึ่งตั้งแต่ตอนที่เห็นในตัวอย่าง พอได้เล่นเองยิ่งฟิน นี่น่าจะเป็นหนึ่งในไม่กี่เกม ที่ตัวอย่างทำออกมาน่าเล่นยังไง เกมจริงออกมาก็ยังน่าเล่นอยู่อย่างนั้น และมันว้าวมากขึ้นไปอีก เพราะเราได้เห็นส่วนที่ตัวอย่างเขาไม่ได้โชว์ให้เราได้เห็น ฉากหลังของเกมนี้ คือย่านชิบูยะในญี่ปุ่น ในโลกของความเป็นจริง ย่านนี้ก็ถือว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเหล่าวัยรุ่น ที่เต็มไปด้วยแสงสีอยู่แล้ว ทีมทำเกมนี้เหมือนรู้ว่ามันคือจุดเด่น เลยจัดเต็มใส่ในเกมนี้แบบไม่มีกั๊ก

และขอบอกว่าภาพสกรีนช็อทที่เราใช้ประกอบบทความนี้ เป็นภาพจากการปรับกราฟิกระดับ Medium เท่านั้น มันยังดูสวยงามกว่าหลาย ๆ เกมในยุคนี้ซะอีก ถ้าคนที่ไม่ชอบประเทศญี่ปุ่นอาจจะเฉย ๆ แต่ใครที่เป็นสาวกญี่ปุ่น คุณจะประทับใจกับฉากในเกมนี้มาก ทุกซอกทุกมุม จะมีอะไรให้คุณสำรวจและพบเจออยู่เสมอ และแม้จะเป็นฉากภายในอาคาร หรือสถานที่เล็ก ๆ รายละเอียดของมันก็ยังคงจัดเต็มแบบไม่ลักไก่เลย เป็นอีกเกมที่แค่เดินกินลมชมวิวก็คุ้มไปหลายบาทแล้ว

โลกของเกมนี้มันไม่ใช่การย้อนอดีต หรือล้ำอนาคต มันคือยุคปัจจุบันนี่แหละ แต่มันเป็นการผสมผสานชิบูยะในยุคปัจจุบัน ให้เข้ากับตำนานภูติผีโยไคของญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ขออธิบายก่อนนิดนึง ก่อนหน้าที่เกมจะออก ทางผู้พัฒนาเขาเปิดเผยว่า เกมนี้จะไม่ใช่เกม Open World แต่มันจะเป็นแบบกึ่ง ๆ Open World และมีความเป็น Sandbox แต่พอได้เล่นเอง ผมก็รู้สึกว่ามันเป็น Open World อยู่ดี แค่ไม่ได้กว้างใหญ่อะไรขนาดนั้น แต่มันจะใส่รายละเอียดที่เยอะมาก ๆ เข้ามาแทน

ทุกตรอกซอกซอยคุณจะมีกิจกรรมให้ทำตลอด ใครเป็นสายเถลไถล เกมนี้อาจจะดูดเวลาคุณได้ยาว ๆ และที่บอกว่ามันผสมผสานตำนานภูติผีโยไคเอาไว้ได้ดี เพราะนี่ชิบูยะ ที่โดนภูติผีอาละวาด เราจะเจอวิญญาณมากมายที่เราต้องต่อสู้ด้วย เจอเท็นงูที่เอาไว้ให้เราโหนตัวขึ้นไปบนอากาศ เจอร่างวิญญาณของพวกมนุษย์ที่จะเป็น Side Mission อันนี้เดี๋ยวเราจะว่ากันต่อในช่วงเกมเพลย์ และที่เด็ดที่สุดที่หลายคนน่าจะชอบ คือพวกน้องหมา น้องแมวภายในเกมนี้

น้องหมา น้องแมวในเกมนี้ เหมือนถูกใส่เข้ามาเพื่อผ่อนคลายผู้เล่นจากความกดดันชวนหลอนในเกมนี้ และมันไม่ได้ใส่เข้ามาเฉย ๆ เท่านั้น น้องหมา น้องแมวเหล่านี้ เราสามารถเข้าไปเล่นกับมัน และอ่านใจมันได้ด้วยว่าพวกมันคิดอะไรอยู่ บางตัวก็จะบอกข้อมูลสำคัญ เช่นที่ซ่อนไอเทมให้กับเรา อย่างน้องหมาทุกตัวเราสามารถที่จะให้อาหารมันได้ มันจะดีใจและพาเราไปขุดหาไอเทมที่เป็นเงิน ส่วนน้องแมว.. ถ้าใครบอกว่า แมวคือสัตว์ที่คิดจะครองโลก มาเล่นเกมนี้ คุณจะรู้สึกว่า ใช่เลย แมวในเกมนี้จะมีความคิดที่ยิ่งผยองมาก ๆ แถมบางตัวหยิ่ง ไม่ยอมเล่นกับเราซะงั้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกตัวจะเป็นแบบนั้น เพราะบางตัว มันจะบ่นคิดถึงเจ้าของ หรือพยายามตามหาเจ้าของว่าหายไปไหน ซึ่งเจ้าของก็หายตัวไปจากเหตุการณ์ลึกลับนี้นี่แหละ เอาเป็นว่า เจอทั้งตัวที่น่าสงสาร และตัวที่น่าเขกกะโหลกสักที แต่ส่วนมาก สัตว์ที่น่าเขกกะโหลกจะเป็นแมวมากกว่าหมานะ..

ใครที่ติดตามข่าวสารของเกมนี้มา คุณจะรู้ว่า จริง ๆ แล้ว ตอนเริ่มต้นพัฒนาเกมนี้ ชื่อเกมของมันคือ The Evil Within 3 ใช่แล้วครับ เกมที่ทุกคนอยากให้มีภาคต่อแต่ก็ไม่มีเนี่ยแหละ แต่เพราะไอเดียและอะไรใหม่ ๆ ที่เขาจะใส่เข้าไปในภาคนี้มันเยอะเกิน เขาเลยเอามันมาต่อยอด กลายเป็นเกมใหม่เกมนี้แทน

และพอได้เล่นผมก็พอจะสัมผัสได้ว่า บางอย่างในเกม มันเป็น Reference จาก The Evil Within จริง ๆ ฉากจำพวกภาพหลอน หรือความเป็น Psychological Horror ในเกมนี้มีให้เห็นเป็นบางครั้งบางคราว แต่ใครที่เคยเล่น The Evil Within แล้วมาเห็น ผมว่าจะเกิดอาการเดจาวูแบบ เฮ้ย เคยเห็นอะไรแบบนี้มาแล้ว แต่มันเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ส่วนมากมันจะอยู่ใน Side Mission ที่เราต้องเข้าไปตามอาคารและสถานที่มากกว่า นอกจากนั้นการนำเสนอเนื้อเรื่องแบบเป็นบท ๆ จบเป็น Chapter ไป ก็เหมือนกับที่ The Evil Within เคยทำ แต่มันถูกทำให้ไหลลื่นมากขึ้นด้วยการเล่นแบบกึ่ง Open World ซึ่งจะว่าไป เจ้าระบบแบบกึ่ง Open World เนี่ย ก็เหมือนกับ The Evil Within 2 ด้วย คือเราจะสำรวจก่อนก็ได้ จะไปทำเนื้อเรื่องเลยก็ได้ เป็นทางเลือกที่ผู้เล่นเลือกเอง

อีกอย่างที่สัมผัสได้เลยคือ เกมนี้เขาจัดเต็มใส่ความเป็นญี่ปุ่นมาแบบแทบจะ 100% ไอเทมฟื้นพลัง สถานที่ วัฒนธรรม ทุกอย่างล้วนมาแบบญี่ปุ่นจ๋าทั้งสิ้น ใครที่ไม่ได้ชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นขนาดนั้นอาจจะไม่ถูกกับเกมนี้ แต่ส่วนตัวแล้วผมชอบมาก มันเหมือนกับเราได้เห็นญี่ปุ่นในอีกมุมหนึ่ง เพราะศัตรูในเกมนี้ ถ้าไปอ่าน Note ข้อมูลจะรู้ว่า วิญญาณชั่วร้ายที่เราต้องสู้ในเกม ส่วนมากจะมาจากพวกบุคคลทั่วไป พนักงานบริษัทที่เก็บกด นักเรียนที่วิตกกังวลกับชีวิตวัยเรียน หรือบางตัวก็เป็นพวกที่มาจากเรื่องเล่าในตำนานญี่ปุ่นจริง ๆ พวกพนักงานบริษัทเนี่ย อาจจะสะท้อนปัญหาสังคมการทำงานของญี่ปุ่นให้เราเห็นอีกแง่มุมก็ได้นะ อันนี้ผมไม่ทราบ ใครมีประสบการณ์ทำงานญี่ปุ่นก็ลองมาพูดคุยกันดู

ด้วยความที่มันโดนพวกภูติผีวิญญาณบุกโจมตี ทำให้เกมนี้ไม่มีเวลากลางวันเลย มันจะอยู่แค่เวลากลางคืนเท่านั้น ไม่ว่าเราจะเล่นผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็ทำให้บรรยากาศของชิบูยะที่เต็มไปด้วยแสงสี ถูกขับออกมาอย่างเต็มที่สวยงามแบบเน้น ๆ ไม่มีกั๊ก อีกอย่างที่ชอบ คือบรรยากาศตอนเราไปเดินเล่นกินลมชมวิว มันจะมีพวกร้านค้าสังสรรค์บันเทิง อันนี้ถ้าเราเดินไปใกล้ ๆ เราจะได้ยินเสียงเหมือนกับมีคนอยู่ตามปกติเลยด้วยซ้ำ มันก็ให้บรรยากาศหลอนไปอีกแบบ เหมือนกับว่า ทุกคนใช้ชีวิตกันอยู่ดี ๆ เกิดปรากฎการณ์นี้ที หายไปแบบไม่รู้ตัวเลย

และแน่นอนธีมเกมญี่ปุ่นจ๋าขนาดนี้ ออปชั่นที่คนไทยต้องเล่นเลยคือ เสียงพากย์ญี่ปุ่น ซับภาษาอังกฤษ น่าเสียดายที่มันไม่มีซับไทย แต่เกมนี้บทพูด และเนื้อเรื่องมันไม่ได้เข้าใจยากขนาดนั้น ใครเก่งอังกฤษพออ่านออกเขียนได้ ก็น่าจะเข้าใจมันได้ไม่ยาก จะมีข้อเสียนิดหน่อยตรงที่เกมนี้เขามีการแบ่งโทนสีที่ชัดเจนมาก สีในเกมนี้จะสดเอามาก ๆ ใครไม่ชิน เล่นไปนาน ๆ อาจจะเวียนหัว ฉากเมืองชิบูยะนี่ก็ศิวิไลซ์พออยู่แล้ว ไอ่ท่าโจมตีของตัวละเราอีกหลากหลายสีสันซะเหลือเกิน แต่ส่วนตัวผมไม่มีปัญหาอะไร แค่เตือนไว้ว่า ใครเวียนหัว ตาลายง่าย ๆ เพราะสีสัน ให้ระวังให้ดี และใครที่หวังว่ามันจะน่ากลัว หรือขนพองสยองเกล้าก็อาจจะต้องผิดหวัง เพราะนี่ไม่ใช่เกมสยองขวัญ

แต่มันมีความน่ากลัวอยู่บ้าง อย่างเช่นบางภารกิจที่ต้องไปหาวิญญาณร้ายในอาคารร้าง หรือที่แคบ อันนี้ต่อให้มีพลังยังสะดุ้งบ้าง บางภารกิจมี Jump Scare กันแบบเน้น ๆ แต่ส่วนมากมันไม่ได้เน้น Jump Scare แต่มันเป็นการบิ้วบรรยากาศ ทำให้เราหลอน ความรู้สึกแบบนี้ ต่อให้ตัวเราเปี่ยมพลังขนาดไหนก็ยังมีขนลุกขนชันกันบ้าง แต่ก็นั่นแหละ มันมีน้อยมากในเกมนี้ เพราะส่วนมากมันเน้นไปทางแอ็คชั่นมากกว่า ซึ่งผมมองว่ามันไม่ใช่ข้อเสียด้วย เพราะหน้าปก กับตัวอย่างเกมก็จัดเต็มมาซะขนาดนั้นอยู่แล้ว ไม่น่ามีใครคิดว่ามันคือเกมสยองขวัญนะ และเกมนี้นำเสนอมุมมองแบบ First Person เท่านั้น ทุกอย่างในโลกของเกมนี้เลยดูเหมือนกับว่าเราลงไปเผชิญหน้ากับมันด้วยตัวเอง ใครที่เป็น Motion Sickness ก็อาจจะเล่นไม่ไหว แต่ใครที่เล่นได้ ยินดีด้วยครับ นี่คืออีกหนึ่งประสบการณ์เกม First Person / Single Player ในรูปแบบมมือปราบผีที่สุดยอดมาก

ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะความชอบของผมด้วย และอีกส่วนหนึ่งคือ ทีมพัฒนาเกมนี้เขาผสมผสานญี่ปุ่นยุคปัจจุบันกับภูติผีโยไคได้อย่างลงตัว บอกตรง ๆ เลยว่า ผมหาข้อติให้กับการนำเสนอของเกมนี้ไม่ได้จริง ๆ

Gameplay

หากคุณเคยดูการ์ตูนอย่างเกคไคชิ ผู้ผนึกมาร อะ อาจจะแก่เกินไป วัยรุ่นสมัยนี้อาจจะต้องมหาเวทย์ผนึกมาร Jujutsu Kaisen อะไรแบบนั้น คุณจะอินกับเกมนี้ได้ง่ายมาก ๆ รูปแบบการเล่นของเกมนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในความฝันของเหล่าคนดูการ์ตูนอนิเมะหลาย ๆ คน ได้ใช้เวทมนตร์คาถาอาคม ได้ต่อสู้กับเหล่าโยไคด้วยสุดยอดคาถาต่าง ๆ ซึ่งมันทำออกมาได้ดีมาก ๆ ด้วยความ Unique ของเกมมัน ทำให้เรื่องของแอนิเมชั่น ท่าทางการใช้มือร่ายคาถาของเกมนี้ จัดอยู่ในระดับสุดยอด เล่นไปก็เผลอปล่อยเมาส์มาวาดลีลาด้วยมือตามเกมไปเพื่อความอิน

เกมเพลย์ของ Ghostwire: Tokyo จะเป็นเกม Action Horror ผสมกับระบบ RPG เราสามารถที่จะกดใช้ Spectral Vision หรือถ้าเอาง่าย ๆ มันก็คล้าย ๆ กับระบบ Eagle Vision นี่แหละ มันคือการสแกนพื้นที่โดยรอบและแสดงสิ่งของสำคัญทั้งหมดในระยะที่เราเจอ ไม่ว่าจะเป็นศัตรู ไอเทม หรือพวก Etheral เจ้า Etheral นี่แหละคือสิ่งสำคัญมากที่เราจะต้องเติมให้เต็มอยู่เสมอ ในเกมนี้อาวุธของเราคือคาถา คาถาเกมนี้จะมีทั้งหมดสามแบบเท่านั้น แบ่งเป็นสามธาตุ ชินะชิคิ ธาตุลม วาดะชิคิ ธาตุน้ำ และฮิโรชิคิ ธาตุไฟ ชินะชิคิ ธาตุลมจะเป็นคาถาโจมตีหลักของเรา เพราะมันรัว ทำดาเมจได้ต่อเนื่อง ใช้งานง่าย วาดะชิคิธาตุน้ำจะโจมตีเป็นกลุ่มแบบแนวนอนได้ แต่ระยะการโจมตีจะสั้น และสุดท้ายฮิโรชิคิ ธาตุไฟ เน้นการโจมตีเดี่ยวที่รุนแรงมาก เหมาะสำหรับเอาไว้ใช้กับพวกสเปเชียลโยไคกับพวกบอส

คาถาพวกนี้จะทำหน้าที่คล้ายกับอาวุธปืนในเกมอื่น ๆ มันจะมีจำนวนกระสุนที่เรายิงออกไปได้อยู่ ถ้าหมด คาถานั้นก็จะยิงไม่ออก ต้องสลับไปใช้คาถาธาตุอื่นแทน ซึ่งวิธีการเติมก็คือการใช้ Spectral Vision สแกนหาสิ่งของรอบตัว สิ่งของที่ต้องสาปเหล่านี้จะมีการเรืองแสงเป็นสีหม่น ๆ เรืองแสงสีไหน เวลาทำลายมันจะเติมคาถาสีนั้นให้ และอีกวิธีในการเติมคาถาก็คือการสังหารศัตรูด้วยวิธีการทำลายแก่นวิญญาณ เราจะต้องโจมตีมันไปเรื่อย ๆ จนมันเริ่มบาดเจ็บหนัก เราจะสามารถใช้การทำลายแก่นวิญญาณได้ด้วยการคลิกขวาค้าง บอกเลยว่าโคตรเท่ เหมือนแส้เวทมนตร์ของ Dr.Strange เลย และหากเราโจมตีจนเจ็บหนักหลายตัว เวลากดใช้มันก็จะเป็นการทำลายแก่นวิญญาณพร้อมกันได้ด้วย

นอกจากคาถาทั้งสามแล้ว Akito ของเรายังมีธนูให้ใช้ เป็นธนูอาคมที่เหมาะกับการเอาไว้ใช้ลอบเร้น และมันยังเป็นอาวุธแบบบังคับใช้ในช่วงที่เรากับ KK ถูกทำให้แยกออกจากกันด้วย แต่ผมรู้สึกว่าธนูเกมนี้มันยิงยากไปหน่อย แถมลูกธนูก็มีดรอปตามฉากน้อยมาก ต้องไปซื้อที่ร้านค้าเท่านั้น และเกมนี้เรายังสามารถทำการโจมตีแบบ Quick Purge หรือเอาง่าย ๆ มันก็คือการ Stealth ลอบเร้นเอายันต์ไปทะลวงหลังผีได้อีก ซึ่งมันง่ายกว่าใช้ธนูเป็นไหน ๆ ทำให้ธนูในเกมนี้ไม่ค่อยจะมีความหมายสักเท่าไร และอีกอย่าง ใช้ธนูมันไม่เท่ เดินหน้าเข้าไปรัวคาถาใส่ เท่กว่าเยอะ ส่วนคาถาจะอัปเกรดได้จากสกิลหลัก และหากอยากจะทำให้มันแรงขึ้น ผู้เล่นจะต้องทำการเปิดแผนที่ด้วยกาชำระล้างประตูโทริอิ ระบบนี้จะเหมือนกับการปีนหอเปิดแมปในเกมอื่น ๆ เลย ช่วงแรกผู้เล่นจะโดนหมอกปริศนาจำกัดพื้นที่ที่เดินทางไปได้ ต้องชำระล้างประตูวิญญาณก่อนถึงจะขยายพื้นที่ไปต่อได้

ยังไม่หมด.. Akito ยังมี Talisman หรือว่ายันต์อาคมให้ได้ใช้อีกด้วย ยันต์พวกนี้จะเป็นเหมือนไอเทมตัวช่วย เช่น ปาสตั๊นศัตรูเป็นกลุ่ม ปาเป็นที่ปิดทางเอาตัวรอด คือตอนหยิบมาใช้มันก็เท่ดีอยู่หรอก แต่ปัญหาคือ จะใช้ทำไม ในเมื่อคาถาจบได้ทุกอย่าง เราจะได้ใช้ยันต์อาคมก็ต่อเมื่อมันจนมุมจริง ๆ นั่นแหละ โอเค ของเล่นของ Akito และ KK น่าจะจบลงเท่านี้ ทีนี้ มาต่อกันที่ระบบ RPG ของเกมนี้

Akito ตัวเอกของเราจะมีการเก็บค่าประสบการณ์ เพื่ออัปเลเวล ทุก ๆ 1 เลเวล เราจะได้ Skill Point มาปลดล็อคสกิลใหม่ ๆ 10 แต้ม ยิ่งอัปเกรดสกิลไปในขั้นสูงขึ้นก็จะใช้แต้มที่เยอะขึ้นด้วย วิธีการเก็บค่าประสบการณ์ ก็คือทำภารกิจย่อย และการเก็บดวงวิญญาณที่เร่ร่อนอยู่ในเมืองไปส่งที่ตู้โทรศัพท์ ขึ้นไวมาก นอกจากนั้นสกิลบางสกิลที่เป็นสกิลหลักของเรา ก่อนจะอัปเกรดขั้นสูงได้ จะต้องใช้มากาทามะ มากาทามะนี้ จะได้จากภารกิจย่อยเป็นส่วนใหญ่ และภารกิจประเภทตามจับโยไค นั่นคือเกมมันสนับสนุนให้เรานอกลู่นอกทางอย่างเต็มที่เลยทีเดียว

สกิลของ Akito จะแบ่งออกเป็น 3 หมวดหมู่ หมวด Ability หมวดนี้จะเป็นพวกสกิลจิปาถะทั่วไป หมวด Etheral ที่เอาไว้อัปเกรดคาถาหลัก และหมวด Equipment ที่จะทำให้ตัว Akito ใส่ของและอุปกรณ์ หรือพกยาได้มากขึ้น ซึ่งมันจำเป็นแทบจะทั้งหมด แต่ถ้าเราขยันสำรวจโลก ยังไงก็น่าจะอัปเกรดได้ครบแน่นอน พวกภูติผีในเมืองนี้ มีโอกาสเจอได้ตลอด ส่วนมากมันจะอยู่กันเป็นกลุ่ม 3-5 ตัว ซึ่งการต่อสู้ของเกมนี้ ผมเล่นแค่ระดับ Normal เลยบอกไม่ถูกว่าระดับสูงกว่านี้เป็นยังไง แต่มันไม่ค่อยยากนัก รัว ๆ ปุ่มก็จบ จะยากตรงเวลาคุณโดนรุมเนี่ยแหละ คือตัวละครเรามันมีสกิลและท่าโจมตีที่เป็นกลุ่มน้อยมาก ๆ ถ้าโดนรุมขึ้นมา รับรองว่าลำบากจริง แต่สถานการณ์ที่คุณต้องเจอศัตรูแบบกลุ่มนี่มันมีน้อยมากอยู่ดี

ความสนุกของเกมนี้มันอยู่ที่การเดินหน้าท้าชนกับเหล่าภูติผีเนี่ยแหละ ด้วยอนิเมชั่นการออกลีลาท่าทางของตัวละคร บอกเลยว่า ใครที่ชอบ ให้นั่งเล่นทั้งวันยังได้ แต่ปัญหาหลัก ๆ ของมันเลยคือ ตัวละครของเรามันมีอะไรให้ใช้มากมายจนเกินไป แต่สุดท้ายมันกลับมีประโยชน์อยู่ไม่กี่อย่าง เหมือนธนูกับยันต์อาคมที่บอกนั่นแหละ มันแทบจะไม่ได้ใช้เลย และรูปแบบศัตรูของเกมนี้ก็มีน้อยมาก และบางตัวดีไซน์มาดี แต่กลับไม่ได้ทำให้ตอนสู้ดูน่าตื่นเต้นสักเท่าไรนัก หลัก ๆ จะเป็นการสแปมคาถาใส่รัว ๆ ไม่มีคอมโบธาตุ ทั้งที่มันน่าจะมีได้

ส่วนภารกิจย่อย ที่เราต้องทำบ่อย ๆ เพื่อเก็บเลเวลและหามากาทามะ ส่วนมากมันก็เป็นภารกิจรูปแบบเดิม ๆ ถ้าจะไม่เหมือนเดิมจริง ๆ คือสตอรี่ ปูมหลัง ที่มาที่ไปของการทำภารกิจ อันนี้เขาทำดีนะ แต่ละภารกิจย่อย มีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจมาก มีตั้งแต่จริงจัง ช่วยเหลือคน ช่วยขจัดวิญญาณร้ายในบ้านร้าง ไปยันภารกิจตลกรับประทานอย่างช่วยหาทิชชู่มาให้เฉย ๆ แต่ภารกิจย่อยเราอยากจะรีบทำให้มันจบ ๆ ไปมากกว่าจะมานั่งเสพเนื้อเรื่องอยู่แล้ว บางครั้งเลยทำให้รู้สึกว่ามันเสียเวลาอยู่เหมือนกัน ยกเว้นบางอันที่ต้องชมว่า เขียนเนื้อเรื่องภารกิจย่อยมาได้ดีจริง ๆ น่าติดตามมาก

และอีกอย่างนึงที่มันน่าเสียดายมาก เหมือนตอนเขาทำ The Evil Within 2 เลย เกมนี้มันจะมีขบวนร้อยอสูร หรือ เฮียกคิ ยาโค มันคือขบวนพาเหรดแห่งวิญญาณ เวลาที่คุณเจอกับขบวนนี้ ทุกอย่างในตัวจะมืดมน ดนตรีในเกมจะเปลี่ยนไป และคุณจะเห็นขบวนพาเหรดของภูติผีเดินอยู่ท่ามกลางสายหมอก คุณจะหลบเลี่ยงก็ได้ แต่ถ้าคุณเดินเข้าไปใกล้ มันจะมีประตูมิติ พาคุณไปต่อสู้กับเหล่ากองทัพโยไคในรูปแบบพื้นที่ปิด หรือเป็นอารีนา สู้เสร็จชนะก็จะได้รับรางวัลและปลดปล่อยวิญญาณผู้คนอีกมากมาย คือมันสนุกมาก เป็นการบู๊แหลก สมกับที่ตัวเกมเขาตั้งใจจะนำเสนอ ปัญหาคือ มันมีน้อยเกินไปหน่อย และใจจริงผมอยากให้เวลาที่เราเจอขบวนนี้ เราหนีไม่ได้เลย บังคับสู้เท่านั้น คือไหน ๆ เกมมันก็มาแอ็คชั่นขนาดนี้แล้ว น่าจะบังคับสู้ไปเลย แถมศัตรูตอนสู้ มันก็ไม่ได้มีไอ่ตัวไซส์ยักษ์ ให้ได้สู้กันมัน ๆ เหมือนตอนเดินเจอ มันดันมีแต่พวกลูกกระจ๊อกที่เราเจอบ่อย ๆ อยู่แล้ว คือนอกมิติกับในมิติ ต่างกันเฉยเลย เสียดายมากระบบนี้

แต่ถึงแม้ผมจะติเกมเพลย์เยอะไปหน่อย แต่ส่วนตัวแล้วผมชอบมาก ๆ วัน ๆ นึงผมสามารถเดินหน้าไปยิงคาถาใส่ผีได้รัว ๆ กว่าจะยอมไปไถเนื้อเรื่องได้ มันอาจจะเป็นรูปแบบเกมเพลย์ทั่วไป แต่ความเท่ของมันนี่หและ กินขาด และมันทำได้ดีจริง ๆ อนาคตถ้าจะมีเกมไหนทำฉากหลังเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคาถาอาคมโลกวิญญาณ ผมว่า Ghostwire Tokyo นี่แหละ น่าจะเป็นมาตรฐานของเกมต่อ ๆ ไปเลย

Performance

เห็นตั้งแต่ตอนตัวอย่างออก นึกว่าเกมจะกินสเปคมากมาย แต่พอได้ลองเล่นแล้ว สบายกว่าที่คิด ผมตกใจตั้งแต่ตอนเห็นขนาดของตัวเกมแล้ว ภาพสวยแบบนี้ กินพื้นที่แค่ 17GB เท่านั้น ใช่ครับ คุณฟังไม่ผิด 17GB จริง ๆ มันน้อยมาก ๆ ทั้งที่โลกในเกมมันก็กว้างใหญ่เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ตลอดฟุตเทจของวิดีโอรีวิวตัวนี้ อัดจากเกมมิ่งแลปทอปที่ใช้การ์ดจอ GTX 1660 Ti กราฟิกเป็น Medium ผสม High ยังเล่นได้สบาย ๆ แถมภาพสวยมาก และที่เจ๋งจริง ๆ คือ มันรันได้เฟรมเรททะลุไป 144 อันนี้อย่างฟินเลย สเปคคอมพิวเตอร์แค่นี้ รันได้ขนาดนี้ สุดยอดมาก ส่วนบนคอนโซลนี่หายห่วงแน่นอน เพราะเกมนี้ตอนนี้เป็น Console Exclusive บน PlayStation 5 เท่านั้น ยังไงก็ลื่นชัวร์

ปัญหาเดียวที่ผมเจอในเกมนี้ คืออาการเฟรมเรทตกที่มักจะเกิดขึ้นเวลาอยู่ในที่แคบ งงไหม ? ปกติเกมอื่นเฟรมเรทจะตกเวลาอยู่ในพื้นที่เปิดกว้าง และพุ่งสูงเวลาอยู่ในที่แคบ แต่เกมนี้ตรงกันข้ามกัน ผมเดาว่า มันน่าจะมาจากเวลาอยู่ในที่แคบและต้องต่อสู้ เอฟเฟคท์คาถาเรา เอฟเฟคท์การต่อสู้ พวกภูติผี มันต้องทำออกมาพร้อม ๆ กัน เลยกินสเปคหนักกว่าชาวบ้านเขา แต่ก็งงที่ตอนโลกเปิดกว้าง ทำไมเฟรมมันไม่ตกอันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน กับอีกข้อหนึ่งคือ เวลาที่เราขึ้นไปอยู่บนยอดตึกสูง ๆ อันนี้เฟรมเรทจะตกแบบเห็นได้ชัด ผมเดาว่า เพราะมันต้องเรนเดอร์เมืองทั้งเมืองเลย มันเลยกินนสเปคหนักขึ้นแบบสุด ๆ และไอ่การขึ้นที่สูงของเกมนี้ก็มีบ่อยซะด้วย ใครสเปคกลาง ๆ ก็ระวังการขึ้นที่สูงเกมนี้ไว้ให้ดี

การตั้งค่าในเกมก็ถือว่าทำได้มาตรฐานเกมสมัยนี้ ส่วนที่ผมชอบเป็นพิเศษ คือตั้งได้ด้วย ว่าจะให้เกมมัน Autosave ถี่ขนาดไหน เร็วสุดทุก 5 นาที ช้าสุดทุก 15 นาที หรือถ้าใครไม่ชอบก็เลือกปิดการตั้งค่านี้ได้ ส่วนอื่น ๆ เช่นมุมกล้อง คีย์กดปุ่มต่าง ๆ ก็ปรับตั้งค่าได้ตามปกติ ปรับไซส์ฟอนต์ซับไตเติล ขนาดซับไตเติลก็ยังได้

และที่น่าแปลกใจก็คือ เกมนี้เป็นของ Bethesda คุณก็น่าจะรู้ว่าเกม Bethesda มันขึ้นชื่ออย่างมากเรื่องบั๊ก แต่ไม่รู้ว่าผมโชคดี หรือเกมมันทำมาดีจริง ผมแทบไม่เจอบั๊กเลยตลอดการเล่น 20 – 30 ชั่วโมง อย่าเรียกว่าแทบไม่เจอ ใช้คำว่าไม่เจอเลยดีกว่า พวกแอนิเมชั่นทะลุฉาก หรืออยู่ดี ๆ เกมรวน เกมแครช เกมล่ม ไม่มี เซฮร์ไพรส์มาก เหมือนไม่ได้เล่นเกมของ Bethesda ซะงั้น แต่ก็ดีแล้ว เพราะผมได้สัมผัสประสบการณ์และดื่มด่ำกับมันได้อย่างเต็มที่จริง ๆ

ghostwire: tokyo เป็นประสบการณ์การเล่นเกม Single Player ที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ การดำเนินเรื่องที่เหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นผสมหนังแมสสูตรสำเร็จ แต่การนำเสนอคือโลกของภูติผี อาคมคาถาที่เต็มไปด้วยสีสันและการออกแบบที่หาคนมาเหมือนได้ยากมากมาก นี่คือประสบการณ์การเล่นเกมที่คุณต้องลองเล่นด้วยตัวเองเท่านั้น ถึงจะรู้ว่า บางครั้ง การเป็นเบียวจอมคาถานี่มันเป็นความรู้สึกทีสุดยอดจริง ๆ

บทความที่น่าสนใจ